Abstraction
คือ กระบวนการการให้ความคิดรวบยอดกับวัตถุ เพื่อสร้าง Class เป็นการแสดงถึงคุณลักษณะและพฤติกรรมของ Object เท่าที่จำเป็นต้องรับรู้และใช้งานโดยซ่อนส่วนที่เหลือเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดความ
สับสน
Encapsulation
encapsulation คือ รากฐานอย่างหนึ่งของแนวความคิดในเชิง Object-Oriented ซึ่งข้อดีของ Encapsulation คือการป้องกัน attribute (data) ของ object จากความเสียหาย เพราะถ้าส่วนของโปรแกรมทั้งหมด อนุญาตให้มีการเข้าถึง Attribute ได้ตามที่ต้องการแล้วนั้น จะส่งผลให้ attribute นั้นง่ายต่อการถูกใช้อย่างผิดๆ ทำให้ค่า attribute เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายตามมาได้
1) ใน object-oriented programming, encapsulation คือการรวมภายในอ๊อบเจคโปรแกรมของทรัพยากรทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับอ๊อบเจคให้ทำงาน โดยพื้นฐานคือ เมธอด และข้อมูล อ๊อบเจคได้รับการกล่าวถึง “ตีพิมพ์อินเตอร์เฟซของตัวเอง” อ๊อบเจคอื่นยึดติดกับอินเตอร์เฟซเหล่านี้เพื่อใช้อ๊อบเจคนี้โดยปราศจากความกังวลการทำงานกับอ๊อบเจค ความคิดคือ “ไม่บอกว่าจะเรื่องนี้อย่างไร ให้ทำ” อ๊อบเจคสามารถคิดถึงการบรรจุอะตอม อินเตอร์เฟซของอ๊อบเจคประกอบด้วยเมธอดสาธารณะและข้อมูลประกอบ
2) ในด้านโทรคมนาคม encapsulation เป็นการรวมของโครงสร้างข้อมูลหนึ่งภายในอีกโครงสร้าง ดังนั้นโครงสร้างข้อมูลแรกได้รับการซ่อนตามเวลา ตัวอย่าง แพ็คเก็ตข้อมูลฟอร์แม็ต TCP/IP สามารถห่อหุ้มภายในเฟรม ATM (อีกชนิดของการส่งผ่านข้อมูล) ภายในบริบทของการส่งผ่านและรับเฟรม ATM แพ็คเก็ตที่ห่อหุ้มเป็นกระแสของบิตระหว่างข้อมูล ATM ที่อธิบายการส่งผ่าน
Modularity
Modularity หมายถึง การแบ่งระบบงานที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนออกเป็นส่วนย่อยๆ ซึ่งจะทำให้
สามารถเข้าใจแต่ละส่วนได้ง่ายขึ้น
สามารถเข้าใจแต่ละส่วนได้ง่ายขึ้น
•Tools: เครื่องมือที่สำคัญที่ใช้เช่น Structure chart, Class diagram, UML
•คุณสมบัติที่พึงประสงค์ของ Modularity
1. Coupling: เป็นตัววัดหรือบ่งบอกระดับของความสัมพันธ์ระหว่าง 2
โมดุลใดๆ เราต้องการให้ค่า coupling ต่ำๆ coupling มี 5 ระดับคือ
* Data coupling * Stamp coupling
* Control coupling * Global coupling
* Content coupling
•2. Cohesion: เป็นตัววัดหรือบ่งบอกระดับการเกาะตัวกันหรือยึดเหนี่ยวกันระหว่างคำสั่งภายในโมดุลเดียวกัน ความต้องการคือในแต่ละโมดุลเราอยากให้ค่า cohesion สูงๆ cohesion มี 7 ระดับคือ
* Functional cohesion
* Sequential cohesion
* Communicational cohesion
* Procedural cohesion
* Temporal cohesion
* Logical cohesion
* Coincidental cohesion
Hierarchy
คือ ลำดับชั้นเเละการกำหนดกรอบให้แก่วัตถุ ยิ่งเรามองวัตถุมากรายละเอียดก็จะมากขึ้นตามไปด้วย เช่น
วิวัฒนาการของรถ ที่เเยกย่อยในเเต่ละรุ่น เเต่ส่วนประกอบหลักยังอยู่เหือนเดิม
Class
คือ ส่วนที่บ่งบอกลักษณะต้นเเบบเเต่ยังไมาสามารถให้งานได้จริง เเละเป็นแม่แบบที่ใช้สร้าง Object
เช่น เเม่เเบบ หรือ พิมพ์เขียว รถ
- Method แปลเป็นไทยก็ ส่วนของพฤติกรรม ของ Object อย่างเช่น Object รถ จะมี method เป็น ขับเคลื่อนได้ สตาร์ทได้
* Logical cohesion
* Coincidental cohesion
Hierarchy
คือ ลำดับชั้นเเละการกำหนดกรอบให้แก่วัตถุ ยิ่งเรามองวัตถุมากรายละเอียดก็จะมากขึ้นตามไปด้วย เช่น
วิวัฒนาการของรถ ที่เเยกย่อยในเเต่ละรุ่น เเต่ส่วนประกอบหลักยังอยู่เหือนเดิม
Class
คือ ส่วนที่บ่งบอกลักษณะต้นเเบบเเต่ยังไมาสามารถให้งานได้จริง เเละเป็นแม่แบบที่ใช้สร้าง Object
เช่น เเม่เเบบ หรือ พิมพ์เขียว รถ
Object
คือ ในการที่เราจะทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ Object ให้เรามองทุกๆ อย่างรอบตัวเราเป็น Object
เช่น รถ
Object ประกอบไปด้วย
- Attribute ถ้าเรามอง รถเป็น Object สิ่งที่เป็น attribute ของ Object รถ ก็คือ สี ขนาด โครงสร้าง - Method แปลเป็นไทยก็ ส่วนของพฤติกรรม ของ Object อย่างเช่น Object รถ จะมี method เป็น ขับเคลื่อนได้ สตาร์ทได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น